ต้นโอลีฟทำไมแพง? เจาะลึกเหตุผลและคุณค่าที่ซ่อนอยู่

P. DEE
17 ก.ย.
ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 15 ต.ค.

หลายคนอาจสงสัยว่า ต้นโอลีฟทำไมแพง ทั้งที่ดูเหมือนเป็นเพียงต้นไม้ชนิดหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ต้นโอลีฟไม่ใช่แค่พืชประดับธรรมดา มันคือ สัญลักษณ์แห่งความหรูหรา ความสงบ และความยั่งยืน ที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านและโครงการระดับพรีเมียมทั่วโลก มาดูเหตุผลเบื้องหลังกันว่าทำไมต้นโอลีฟถึงมีราคาที่สูงกันครับ

ต้นโอลีฟ สัญลักษณ์แห่งความหรูหราและความหมายลึกซึ้ง

ต้นโอลีฟมีต้นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน ถูกยกย่องในวัฒนธรรมต่าง ๆ มานานหลายพันปี เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และอายุยืนยาว หลายประเทศใช้กิ่งโอลีฟเป็นสัญลักษณ์ในพิธีสำคัญ เช่น กีฬาโอลิมปิก หรือพิธีการทางศาสนา แล้วต้นโอลีฟเป็นมาอย่างไร อ่านต่อได้ที่บทความ > ต้นมะกอกโอลีฟ (Olive tree) ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุหลายพันปีจากดินแดนเมดิเตอร์เรเนียน

สำหรับบ้านและโครงการหรูในปัจจุบัน การมีต้นโอลีฟในพื้นที่ ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังสื่อถึงความ “เหนือระดับ” ของรสนิยมเจ้าของ อย่างเช่น โครงการ BUGAAN จากแสนสิริที่มีการใช้ต้นโอลีฟสายพันธุ์ Farga (ฟาร์กา) ประดับเพื่อยกระดับโครงการให้เหนือระดับมากขึ้น

ทำไมต้นโอลีฟถึงมีราคาแพง?

1.การนำเข้าจากเมดิเตอร์เรเนียน

ต้นโอลีฟคุณภาพสูงส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศในแถบเมดิเตอร์เรียน เช่น ประเทศสเปน ซึ่งต้องผ่านกระบวนการขนส่งที่มีความซับซ้อน ทำให้ต้นมีราคาสูงขึ้นตามคุณภาพและต้นทุน

2.อายุและขนาดของต้น

ต้นโอลีฟขึ้นชื่อในด้านของอายุที่ยืนยาว ยิ่งต้นมีอายุมาก รูปทรงก็จะยิ่งสวยงามและทรงพลัง ต้นโอลีฟบางต้นมีอายุนับร้อยปี หรือบางต้นอายุถึงหลักพันปี ส่งผลให้มีราคาที่สูงขึ้น เพราะเหมือนคุณได้เป็นเจ้าของ "กาลเวลา" ที่ไม่มีใครสามารถครอบครองได้

3.การคัดเลือกฟอร์ม

ไม่ใช่ทุกต้นที่จะมีรูปทรงที่สมบูรณ์ ฟอร์มสวย ใบเงินฟูหนาแน่น การคัดเลือกต้นที่ “ใช่” สำหรับตกแต่งสถานที่ คืออีกเหตุผลที่ทำให้ราคาสูง โดย La Prima Vera เราได้ทำงานร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากสเปนเพื่อคัดสรรต้นโอลีฟที่สวยสง่า แข็งแรง ให้คนมีระดับเช่นคุณได้เป็นเจ้าของ

4.ความหายากและจำนวนที่น้อย

ในปัจจุบันเนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ ส่งผลให้ต้นโอลีฟเริ่มหายากมากขึ้น จึงทำให้การนำเข้าจากเมดิเตอร์เรเนียนสู่ประเทศไทยมีความยากมากขึ้น

ต้นโอลีฟทำไมแพง ค้นหาคำตอบผ่านมุมมอง “Living Luxury Asset”

ต้นโอลีฟไม่ใช่เพียงต้นไม้ แต่คือ ทรัพย์สินมีชีวิต (Living Luxury Asset) ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านและพื้นที่ได้ เช่นเดียวกับงานศิลปะหรือนาฬิกาหรู ต้นโอลีฟคือการลงทุนที่สะท้อนถึงรสนิยมอันประณีต แล้วทำไมต้นโอลีฟจึงกลายเป็นสิ่งที่คนเริ่มให้ความสนใจในฐานะ "ทรัพย์สิน" ?

เป็นสินค้าที่ "ไม่สามารถผลิตเพิ่มแบบเดิมได้" จึงมีเอกลักษณ์และคุณค่าเฉพาะตัว
เป็นสินทรัพย์ที่สามารถส่งต่อหรือเคลื่อนย้ายได้: สามารถปลูกในบ้าน หรือย้ายไปยังบ้านใหม่ได้ โดยยังรักษามูลค่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น
มีมูลค่าทั้งทางใจและภาพลักษณ์: เจ้าของบ้านหรือสถานที่ที่ปลูกต้นโอลีฟ มักได้รับการรับรู้ว่า “มีรสนิยม มีความมั่นคง มั่งคั่ง”
มีประโยชน์ทั้งในเชิงฟังก์ชันและจิตใจ: เสริมสร้างบรรยากาศให้สถานที่ดูหรูหรา น่าอยู่และลดความเครียดในบ้าน หรือใช้ตกแต่งเพื่อเพิ่มมูลค่าอสังหาฯ หรือธุรกิจได้ เช่น คาเฟ่ โรงแรม รีสอร์ต หรือแม้กระทั้งหมู่บ้าน

เคล็ดลับสำหรับผู้ที่สนใจซื้อต้นโอลีฟ

การคำนึงถึงพื้นที่ปลูกและแสงแดด ว่าเพียงพอต่อความต้องการของต้นโอลีฟหรือไม่ พื้นที่ปลูกสามารถระบายน้ำได้ดีหรือยัง ศึกษาการดูแลต้นโอลีฟ พร้อมเทคนิคในการดูแลต้นโอลีฟแบบง่ายๆได้แล้วที่บทความ > การดูแลต้นโอลีฟให้สวยงามทุกฤดูกาล
เลือกซื้อต้นโอลีฟจากแบรนด์ที่มีบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เนื่องจากต้นโอลีฟเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง การมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาการดูแลต้นโอลีฟหลังลงปลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ